ระบบสระว่ายน้ำ Skimmer คืออะไร ทำไมคนนิยมใช้?

ระบบสระว่ายน้ำ Skimmer คืออะไร

ระบบกรองสระว่ายน้ำอีกหนึ่งประเภทที่นิยมสร้างในบ้านพักอาศัย ก็คือ ระบบสระว่ายน้ำ Skimmer เนื่องจากตอบโจทย์ด้านความประหยัด แต่มีคุณภาพดี ใช้งบประมาณการก่อสร้างไม่สูงมาก ทั้งยังช่วยประหยัดพื้นที่ เพราะไม่ต้องหาจุดวางถังพักน้ำ หรือ Surge Tank และงานนี้ใครกำลังวางแผนสร้างสระว่ายน้ำแบบจำกัดงบ บทความนี้อาจมีคำแนะนำดี ๆ ให้คุณ

ระบบสระว่ายน้ำ Skimmer Pool คืออะไร?

ระบบสระว่ายน้ำ Skimmer Pool คือ ระบบกรองน้ำที่ติดตั้งกล่องสกิมเมอร์ (Skimmer box) ไว้ที่ผนังด้านบนสุดของสระว่ายน้ำ เพื่อดูดเศษสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ลอยอยู่ในน้ำเข้าสู่ระบบกรอง เพื่อหมุนเวียนน้ำสะอาดเข้าสู่สระว่ายน้ำอีกครั้ง 

ประเภทของระบบสระว่ายน้ำ Skimmer

1. ระบบสระว่ายน้ำ Skimmer แบบฝังในผนังสระ

ระบบสระว่ายน้ำ Skimmer แบบฝังในผนังสระ หรือ Built-in Skimmer เป็นกล่องพลาสติกหรือไฟเบอร์ที่ถูกฝังอยู่ในผนังด้านข้างของสระว่ายน้ำ ข้อดีคือดูแลง่าย ทำความสะอาดง่าย และทำงานอัตโนมัติ รักษาน้ำให้ใสอยู่ตลอดเวลา แต่จำกัดพื้นที่การดูดตะกอน โดยจะดูดน้ำเฉพาะบนผิวน้ำเท่านั้น หากเป็นใต้สระน้ำจะต้องใช้เครื่องดูดตะกอนในการทำหน้าที่แทน 

2. ระบบสระว่ายน้ำ Skimmer แบบแขวน

Wall-mounted Skimmer มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าระบบสระว่ายน้ำ Skimmer แบบแขวน ข้อดีคือมีราคาถูก ติดตั้งง่าย เพียงแค่แขวนหรือหนีบไว้ที่ขอบสระ แล้วเชื่อมกับปั๊มน้ำก็สามารถใช้งานได้เลย ไม่จำเป็นต้องฝังเข้าโครงสร้างสระ สามารถถอดและเคลื่อนย้ายได้ แต่ไม่ค่อยคงทน หลุดง่ายหากยึดไม่แน่น เหมาะกับการใช้งานชั่วคราวมากกว่า

3. ระบบสระว่ายน้ำ Skimmer พร้อมปั๊มในตัว

Skimmer filter-Pump Combination เป็นระบบสระว่ายน้ำ Skimmer ที่มีทั้งปั๊มน้ำและระบบกรองในชุดเดียวกัน ติดตั้งง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก สามารถแขวนหรือยึดไว้กับขอบสระโดยไม่ต้องต่อระบบท่อหรือฝังเข้าผนังสระว่ายน้ำ แต่ดูดตะกอนได้ไม่ทั่วถึง และต้องทำความสะอาดและเปลี่ยนไส้กรองบ่อย เหมาะกับการใช้งานในสระว่ายน้ำขนาดเล็ก

หลักการทำงานของระบบสระว่ายน้ำ Skimmer

การทำงานของระบบสระว่ายน้ำ Skimmer จะเริ่มจากการดูดเอาน้ำและเศษสกปรกต่าง ๆ เข้ามาในตะกร้าสกิมเมอร์ โดยจะทำงานต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าปั๊มสระว่ายน้ำจะปิด เมื่อปั๊มในสระปิดแล้ว ให้นำเศษสิ่งสกปรกต่าง ๆ ในตะกร้าสกิมเมอร์ไปทิ้ง และล้างทำความสะอาด เพื่อให้ตัวกรองใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อดีของระบบสระว่ายน้ำ Skimmer

1. มีความประหยัด 

ระบบสระว่ายน้ำ Skimmer ไม่จำเป็นต้องหาพื้นที่เพื่อก่อสร้างถังพักน้ำ ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์ด้านความประหยัดทั้งในส่วนของพื้นที่ เวลา และงบประมาณ ได้มากกว่าการสร้างสระว่ายน้ำระบบ Overflow

2. ดูแลรักษาง่าย 

ระบบสระว่ายน้ำ Skimmer มีข้อดีที่ดูแลรักษาง่าย เนื่องจากระบบกรองทำงานต่อเนื่องตลอดเวลา ทั้งยังมีระบบการทำงานที่ไม่ซับซ้อนมากนัก จึงสามารถดูแลรักษาและซ่อมบำรุงได้ง่าย ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาได้อย่างดี

3. ควบคุมระดับน้ำได้ดี 

ระบบสระว่ายน้ำ Skimmer มักจะมีระบบควบคุมระดับน้ำอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยควบคุมระดับน้ำให้เหมาะสมได้ตลอดเวลา ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำล้นสระแต่อย่างใด

4. กระจายสารเคมีได้ทั่วถึง 

ระบบสระว่ายน้ำ Skimmer ถูกออกแบบให้มีการหมุนเวียนน้ำตลอดเวลา หากติดตั้งอย่างถูกวิธีก็จะสามารถกระจายสารเคมีได้อย่างทั่วถึง ช่วยลดการสะสมของตะกอนภายในสระว่ายน้ำได้

ข้อจำกัดของระบบสระว่ายน้ำ Skimmer

1. ดูดน้ำบนผิวน้ำได้ดีกว่าใต้น้ำ ระบบสระว่ายน้ำ Skimmer จะดูดสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ลอยบนผิวน้ำได้ดีกว่าสิ่งสกปรกที่จมอยู่ก้นสระว่ายน้ำ หากต้องการทำความสะอาดให้ทั่วถึงควรใช้เครื่องดูดตะกอนหรือหุ่นดูดตะกอนใต้สระเพิ่มเติม

2. ต้องควบคุมระดับน้ำให้แม่นยำ หากน้ำอยู่ต่ำกว่าปาก Skimmer น้ำจะไม่ถูกดูดเข้าสู่ระบบ ซึ่งจะทำให้ระบบกรองหยุดทำงาน แต่ถ้าระดับน้ำอยู่สูงกว่าปาก Skimmer ก็จะทำให้ทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ

3. เหมาะกับสระขนาดเล็ก ไม่เหมาะกับสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ เพราะระบบสระว่ายน้ำ Skimmer อาจไม่สามารถดูดและหมุนเวียนน้ำได้ทั่วถึง  หากเป็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ควรใช้ระบบ OverFlow มากกว่า

วิธีดูแลระบบสระว่ายน้ำ Skimmer

  • ทำความสะอาดตะกร้าสกิมเมอร์ และทำความสะอาดสระว่ายน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกที่อาจจะทำให้ระบบสระว่ายน้ำ Skimmer อุดตัน จนประสิทธิภาพในการหมุนเวียนน้ำลดลง ส่งผลต่ออายุการใช้งาน 
  • การรักษาระดับคลอรีนและค่า pH ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมก็เป็นการดูแลรักษาระบบสระว่ายน้ำ Skimmer อีกทางหนึ่งเช่นเดียวกัน เนื่องจากค่าเคมีที่ไม่เหมาะสมนั้นจะไปกัดกร่อนตัว Skimmer ทำให้อายุการใช้งานสั้นลงนั่นเอง
  • การโยนลูกเทนนิสลงไปในสระว่ายน้ำใกล้ ๆ ตัวสกิมเมอร์จะช่วยให้ระบบสระว่ายน้ำ Skimmer ทำงานได้ง่ายมากขึ้น เนื่องจากผิวของลูกเทนนิสจะช่วยดูดซับเอาคราบครีมและเครื่องสำอางต่าง ๆ รวมถึงน้ำมันออกไปนั่นเอง

นอกจากนี้ การให้ช่างสระว่ายน้ำที่มีความเชี่ยวชาญมาตรวจสอบสระว่ายน้ำก็เป็นเรื่องที่ควรทำเช่นเดียวกัน เพื่อตรวจเช็กว่ามีอุปกรณ์ทำความสะอาดสระว่ายน้ำจุดใดบ้างที่ต้องเปลี่ยนหรือ เช่น ระบบสระว่ายน้ำ Skimmer เสีย, กระเบื้องสระว่ายน้ำแตก เป็นต้น เพื่อป้องกันปัญหาบานปลายที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง